Monday, March 12, 2012

วิศวกรเฟสบุ๊คแนะนำให้ Google ปรับผลลัพธ์การค้นหาให้แสดงผลทุกโซเชียลอย่างเท่าเทียม

กลายเป็นอีกประเด็นที่หน้าสนใจไม่น้อยกับการปรับปรุงระบบการค้นหาของ Google ตัวใหม่ที่มุ่งเน้นการแสดงผลบนโซเซียลของ Google+ ของตัวเองมากโดยกูเกิลเน้นเพื่อดันแต่โซเซียลของตัวเองจนหลายฝ่ายที่ถูกผลกระทบอย่าง Twitter และ Facebook ต่างก็ไม่เห็นด้วยที่การปรับปรุง Real-time search ของกูเกิลนั้นไม่แฟร์และกำจัดวงอยู่แต่ระบบโซเซียลของตัวเอง ซึ่งแต่เดิมกูเกิลเคยเจรจาจ่ายเงินเพื่อดึงข้อมูลกับ Twitter เพื่อนำข้อมูลมาแสดงผลในส่วนของ Real-time search แต่หลังจากนั้นมี Google+ โซเซียลของตนเองขึ้นมาระบบดังกล่าวก็ถูกเปลี่ยนไปจนดูเหมือนว่าเป็นการปิดกั้นข้อมูลไปเสียด้วยซ้ำ ทำให้ล่าสุด Blake Ross ผู้ร่วมก่อตั้ง FireFox และปัจจุบันเป็นวิศวกรของ Facebook ก็ออกมาแสดงความเห็นเช่นเดียวกับ Twitter ด้วยที่ไม่เห็นด้วยกับระบบค้นหาของ Google ข้อความทวีตแสดงความเห็นของวิศวกร Facebook เกี่ยวกับระบบค้นหาบน Google Google outcomes are significantly more relevant when they contain all social networks rather than just Google+. Check it out: http://t.co/yr4G66m7 about 16 hours ago by way of Tweet Button Reply Retweet Favorite @blakeross Blake Ross วิศวกรของเฟสบุ๊คจึงได้เปิดหน้าเว็บ concentrateontheuser.org ขึ้นมาพร้อมทั้งแนะนำระบบ Search ให้กับทางกูเกิลด้วยว่าควรจะให้ความสำคัญกับข้อมูลของตัวบุคคล (concentrate on the user )ในแต่ละโซเซียลอย่างเท่าเทียมกันมากกว่า ซึ่งมันจะส่งผลดีกับทุกฝ่ายทั้ง Google search เองและ Social Networks อื่นๆด้วย โดยเขายังชี้ให้เห็นว่าเมื่อลองค้นหาข้อมูลระดับตัวบุคคลอย่างเช่น Jamie Oliver เราก็จะพบว่าเราเห็นผลลัพธ์ที่ระบุข้อมูลของเขาบน Twitter, Facebook, IMDb ในหน้าแรกแต่กลับไม่เห็นข้อมูล Google+ ของเขาซึ่งนั่นหมายความว่าระบบค้นหาของกูเกิลไม่ได้ให้ความสำคัญเกี่ยวกับตัวบุคคลเลย ทั้งๆที่คำค้นหานั้นระบุถึงข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลมากกว่า ตัวอย่างผลลัพธ์ที่มีข้อมูลทั้ง men and women และ Pages (ตัวอย่างรูปด้านขวาคือผลลัพธ์ที่เชื่อมโยงกับข้อมูลบุคคลในแต่ละโซเซียล) ตัวอย่างผลลัพธ์ในช่องค้นหา Google search box ตัวอย่างผลลัพธ์แบบ  See significantly more..

บทความที่ได้รับความนิยม